Japan Ep4 Shibuya
ชมแสงสียามราตรีที่ชิบุย่า
หลังจากตอนที่แล้วเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับดอกซากุระแสนสวยแล้ว พวกเราก็ต้องเดินทางกลับโตเกียวใช้เวลายาวนานเช่นเดิม การมาโตเกียวรอบนี้สนุกดีนะ เพราะไม่ต้องเดินวนอยู่แค่โตเกียวได้มาเที่ยวหลายที่ พวกเราพอขี้นรถไฟได้ก็กินก่อนเลยไส้กรอกที่บอกว่าอร่อยมากฟาดกันเรียบบนรถไฟเนี่ยแหละ
ทริปนี้มีน้องหมี (หน้าเหมือนหมีแพนด้าเพื่อนเลยเรียกว่าหมี) เป็นบัดดี้ก็ไม่มีใครห้ามใคร กินไหมเธอ? ไม่เคยมีตอบว่าไม่กินเลยสักครั้งให้มันได้อย่างนี้สิ ตลอดทริปนี้เลยแบ่งกันกินทุกอย่างเลย การมาเที่ยวแบบนี้บัดดี้เนี่ยดีมากเลยนะเพราะได้กินหลายอย่าง ยิ่งเป็นบัดดี้ที่ไม่ปฏิเสธเลยยิ่งกินสนุกมาก ทริปนี้เกะกะอย่างเดียวคือแมสเนี่ยแหละ ถ้าไม่ติดโควิดนะจะฟินกว่านี้มาก
Shibuya
จาก Kawazu พวกเราเดินทางมายังโตเกียววันนี้หัวหน้าทริปให้เดินเที่ยวช็อปปิ้งเพลินๆ เปิดทางมาแบบนี้มีหวังวันนี้เลยเที่ยงคืนแน่นอน ตามพวกเราไปเที่ยวใน Shibuya กันจ้า
พวกเรามาถึงโตเกียวเป็นเวลาเลิกงานของคนที่นี่พอดี ช่วงเวลาทำงานรถไฟฟ้าทุกสายแน่นมากจริงๆ คนเดินกันเร็วมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมราเมงที่นี่ชามใหญ่ เพราะคนที่นี่เค้าต้องใช้พลังงานเดิน นี่ถ้าเมืองไทยอากาศดีแบบนี้นะ ไกลเป็นกิโลก็เดินได้ แต่พอมาเจออากาศร้อนตับแล่บแค่ 200 เมตรยังเหนื่อยเลยจ๊ะ ^^
พอออกจากสถานีได้ก็เจอรูปปั้นเจ้าหมาชิบะที่ตามประวัติเล่าว่า มันรอเจ้าของกลับมาจนตัวมาใต้ที่นี่เลย เค้าเลยสร้างเป็นรูปปั้นของมันไว้ที่นี่ มาแล้วก็ถ่ายรูปซะหน่อย ส่วนเพื่อนๆ ก็ตั้งใจมาแลกหวยที่เพื่อนทริปก่อนเค้ามาซื้อแล้วถูกเลยให้พวกเรามาขึ้นเงินให้ เรื่องหวยเนี่ยมันไม่เข้าใครออกใคร จากที่สังเกตุการณ์กันอยู่สักพักทุกคนก็ลุ้นกันเองเลย จนสุดท้ายจบที่ซื้อหวยชุดมาลุ้นกับเค้าด้วยล่ะ กะว่าถูกจะบินมาขึ้นเงินกันเองเลย ชีวิตเรามีหวังเสมอกับเรื่องหวย
หวยญี่ปุ่นก็จะหน้าตาแบบนี้ มันมีหลายอย่างแต่พวกเราเลือกแบบนี้เพราะง่ายที่สุด แค่ขูดแล้วให้เจอรูปเหมือนตัวอย่างแค่นั้นได้ตังค์แล้วง่ายมากเลยล่ะ แต่อย่าถามว่าขูดกันกี่แผ่นไม่ได้ถูกกันง่ายๆ นะจ๊ะ เรื่องหวยเนี่ยไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอกเพราะมันมากับดวงจริงๆ
หลังจากหมดหวังจากหวยก็ได้เวลาเดินเที่ยวชิบุย่าแล้วล่ะ ย่านนี้เป็นย่านที่ผู้คนคึกคักมากส่วนใหญ่ยืนคุยกันเป็นกลุ่มๆ เต็มไปหมดจนแน่นทุกพื้นที่ คนญ๊่ปุ่นนี่เค้าแต่งตัวเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นจริงๆ ยังกะเดินออกมาจากหนังสือ ตรงนี้เป็นใจกลางเมืองคนเลยเยอะมากเป็นธรรมดา
หากดูจากรูปจะเห็นว่าตอนไฟแดงกับไฟเขียวเนี่ยต่างกันเลย คนเยอะแยะไปหมดทำเอาเดินไม่ถูกเหมือนกันนะ เพราะเป็นแยกใหญ่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า แยกเยอะขนาดนี้ไม่เกาะกันดีๆ มีหลงแน่นอน จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดในแยกนี้ พวกเราถ่ายรูปกันบนร้านกาแฟสตาร์บัคที่วิวกระจกของร้านมองเห็นแยกนี้ได้อย่างชัดเจน
ไหนๆ มานั่งใช้พื้นที่ของเค้าแล้วก็เลยสั่งเครื่องดื่มของเค้าซะเลย กินของหวานที่นี่ก็หิวของคาวแล้วล่ะ พวกเราเดินไปเจอร้านเนื้อปิ้งในกลุ่มเราหมีเป็นคนเดียวที่กินเนื้อ พอมันเห็นเนื้อย่างเท่านั้นล่ะซื้อเลย เราก็ตามไปดูเค้าย่างเนื้อ โหย.. กลิ่นมันหอมหวลมาก เมื่อมันเรียกร้องกินสิ กินเราสิ!! น้องๆ ต้องดึงสติพี่เออย่า ไมงั้นเหรอเรียบร้อยโดนไปแล้ว บนเจ้าแม่กวนอิมไว้ไม่กินเนื้อทริปนี้เลยอดกิน
จากนั้นก็เข้าสู่ภารกิจช้อปปิ้ง หยอดกาซาปองอันจริงจังมาก เรียกว่าตังค์ไม่หมดไม่กลับแบบนั้นเลย อย่าให้ได้เจอตู้จำได้เลยว่ามีน้องคนหนึ่งหาเต่า โหย.. หาทุกตู้ทุกย่านที่ผ่านไปหากันทุกวันมันไปนอนรออยู่สนามบินนู้น เหมือนยิ่งหายิ่งไม่เจอจริงๆ กาซาปอง เจอตัวที่ต้องการเนี่ยหมดตู้สู้ตาย คนชอบก็ชอบกันจริงๆ ไอ้เราเหรอตัวอะไรฟ่ะได้มายังเฉยๆ เลย ^^
ย่านนี่พวกเราเดินผ่านกันทุกวันเพราะที่พักอยู่ใกล้ๆ มาอยู่หลายวันนี้เริ่มคุ้นชินกับทางแล้วล่ะ ย่านนี้คึกคักเหมือนเมืองไม่เคยหลับ คนจะซื้ออะไรกันเยอะแยะ ยิ่งเป็นคืนวันศุกร์รู้เลยว่าคนที่นี่มีความ Relax มาก คนทำงานเค้าดื่มกันจริงๆ เมาแบบยับๆ เหมือนในซีรีย์ที่เราดูนั่นแหละ ดังนั้นการมาเดินเที่ยวที่นี่ก็ต้องระวังตัวไว้บ้างนะจ๊ะ ตอนนี้เริ่มอยากได้ฟิวแบบคนทำงานนั่งชิลมั่งแล้วล่ะ
Isomaru Suisen
มีคนรีวิวว่ามาย่านนี้ต้องมาโดนร้านนี้ เค้ามีชื่อว่า “Isomaru Suisen” คนมานั่งชิลหลังเลิกงานกันเยอะมาก อย่าถามนะว่าเค้าคุยอะไรกัน ฟังไม่ออกเลยจ๊ะขนาดสั่งอาหารยังงงเลย ดีที่น้องในกลุ่มพอรู้ภาษาญี่ปุ่นบ้าง จัดไปเลยน้องสั่งโลด!!
จากนั้นเค้าก็มีปลากับแท่งๆ และกลมๆ เนี่ยมาเสริฟ์ อย่าถามนะว่าคืออะไรตอบอย่างมั่นใจไม่รู้ รู้แต่ว่าเค้าให้มาย่างบนเตาแหละ จัดไปสิรออะไร อร่อยนะเนี่ยที่เค้าให้มาเป็นออเดิรฟ์เนี่ย มาทั้งทีต้องจิบเบียร์เย็นๆ ฉลองการได้มาเที่ยวแล้วเสียวๆ โดนไล่ออก ^^
ทุกเมนูที่สั่งมาอร่อยทุกอย่างเลยจริงๆ ถ้าใครอ่านมาหลายตอนจะเข้าใจแหละกลุ่มนี้กินอะไรก็อร่อยหมด เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่เราคัดสรรมาดีแล้วสำหรับเรา ราคาไม่ต้องพูดถึงแรงอยู่เหมือนกัน แต่มาแล้วอย่าแคร์ค่อยกลับไปหาเงินใหม่ แต่ตอนนี้กินก่อนอร่อยวันนี้แหละ เบ็ดเสร็จมื้อนี้โดนไป 11,453 เยนเอง เบาๆ เรามากันเยอะหารกันแล้วคนละนิดหน่อย
พอทานกันเสร็จก็เดินทางกลับห้องพักและไม่ลืมที่จะแวะซื้อวิตามินซีขวดเขียวติดไว้ในตู้เย็นทุกวัน วิตามินซีที่ขวดเหมือนของวู้ดดี้แต่รสชาติต่างกันเยอะมากที่ญี่ปุ่นจะออกเปรี้ยวอร่อยเลยล่ะ แต่ของเมืองไทยหวานมากรสชาติไม่เหมือนกันเลย จากนั้นค่ำคืนนี้ก็ผ่านไปอย่าถามว่าปวดขาไหม?
มาเที่ยวต่างประเทศทีไร มีทริปเดียวที่ซาปาเวียตนามเนี่ยแหละสบายที่สุดทุกอย่างรถถึง ทริปอื่นเหรอเดินขาลากทุกทริปจริงๆ ดังนั้นยามที่คุณยังมีแรงคุณควรที่จะเดินทาง เพราะในวันที่คุณมีพร้อมแต่อาจจะไม่มีสังขารที่แข็งแรงพอจะไปใช้เงินแล้วก็ได้ จึงเป็นเหตุให้เราต้องรู้จักบาลานซ์ชีวิตให้มันสมดุล เพื่อที่ว่าต่อไปจะไม่ต้องบอกว่า “รู้งี้เที่ยวตอนมีแรงก็ดีล่ะ!!”
ติดตามกันต่อตอนหน้านะจ๊ะจะพาไปเที่ยวนิกโก้จ้า^^
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com