Maya Bay Ep.4
ตะลุยพีพีเลเดย์ทริป
จากตอนที่แล้วพวกเราไปเที่ยว “จุดชมวิวเกาะพีพี” กันมาแล้ว วันนี้เป็นวันที่พวกเราต้องลุ้นกันว่า เช้าวันนี้ฟ้าจะใสหรือเปล่าน้า หลังจากที่เมื่อวานฟ้าครื้มมาก ตื่นมาตอนเช้าถึงกับโล่งใจเจ้าพ่อต้นไทรท่านใจดีจริงๆ น้ำแดงเก้าขวด เช้ามาเห็นผลเลยฟ้าใสมากดีใจเป็นที่สุด เพราะว่าวันนี้ไม่เสียเที่ยวแล้วพวกเรา
พวกเรานัดคนเรือที่เหมาไว้ 6 ชั่วโมง 4,000 บาท หากใครไม่ได้จองมาล่วงหน้าก็มาหาเอาข้างหน้าก็ได้นะ เพราะที่ขายทัวร์มีให้จองด้วยจ้า เผื่อว่าไม่มีเพื่อนก็มาหาเอาข้างหน้าเนี่ยแหละ ดีที่พวกเรามากัน 6 คน เหมาได้สบายๆ เพราะครั้งที่แล้วมา Day Trip ไม่สะใจ 1 ชั่วโมงที่เหมาเรือไปถ่ายรูปแค่ในปิเละลากูนไม่พอจ้า มากันแค่สองคนยังเวลาไม่พอ นี่มา 6 คน พวกเราเลยตัดสินใจเหมาไปเลยดีกว่า เรื่องเที่ยวพวกเราสู้ตายความสบายคือสิ่งสำคัญ
ค่าเข้าอุทยานสำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท โดยทุกคนต้องเสียค่าเข้าอุทยาน การเดินทางมาอ่าวมาหยาเดินทางด้วยเรือโดยเรือจะมาจอดตรงโป๊ะที่เข้าอุทยาน เรือจะมาจอดส่งผู้โดยสายแล้วออกไปจอดยังจุดข้างๆ หรือวนมารับใหม่โดยต้องนัดเวลากันว่าจะอยู่ที่นี่กี่ชั่วโมง
อ่าวมาหยา
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะใหญ่เป็นอันดับสองรองจากหมู่เกาะพีพี อ่าวมาหยาเกิดจากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อมแหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน เมื่อก่อนที่มีแนวประการังปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการทิ้งสมอเรือและคลื่นยักษ์สึนามิ แนวประการังจึงเสื่อมโทรมหมด ต่อมาได้มีการฟื้นฟูและพัฒนาปรับปรุงจนสวยงาม เพราะมีการปิดที่แห่งนี้มาอย่างยาวนาน เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ปี 2022
อ่าวมาหยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์หนึ่งของจังหวัดกระบี่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ หาดทรายที่นี่ขาวละเอียดว่ากันว่า “ละมุนเหมือนผงแป้ง” น้ำทะเลที่นี่สวยเป็นสีเขียวมรกตจนชาวต่างชาติยกให้อ่าวมาหยาเป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในฉากของหน้าเรื่องเดอะบีช ที่มาถ่ายทำกันที่นี่จนทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างของนักท่องเที่ยวจนปัจจุบัน
ใครที่เหมาเรือแนะนำให้มาที่นี่ก่อนไปที่อื่น เพราะช่วงเช้าคนจะไม่เยอะกว่าทัวร์ Day trip จะมาก็ 11 โมงนู้นล่ะ เราสามารถลงไปถ่ายรูปในทะเลได้ แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ แค่ไปไกลหน่อยเจ้าหน้าที่ก็เดินมาเป่านกหวีดให้ขึ้นมาแล้วจ้า เจ้าหน้าที่เข้มงวดตลอดหาดเลยน้าทุกคน แต่ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะฉากหลังจะได้สวยทุกคน นี่ขนาดเรามาเร็วยังไม่ได้ไปถ่ายรูปตรงที่อื่นเลย วนกันอยู่ตรงมุมนี้มุมเดียวเนี่ยก็ปาไปจะครึ่งวันแล้วล่ะ
พวกเราซื้อเสื้อกันที่เกาะพีพีใส่มาเป็นแก๊งค์ยูนิคอรน์กันเลยทีเดียว พอใส่เสื้อเหมือนกันข้อดีคือหากันไม่ยากเลย มองไปทางไหนก็เจอ เรียกว่าเตรียมตัวมาดี พวกเราอยู่ที่นี่จนเกือบ 11 โมง เดินกลับออกมา ขุ่นพระ!! เลยคนเยอะมาก นี่ขนาดอยู่ในช่วงจำกัดนักท่องเที่ยวยังเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่จำกัดแน่นอ่าวแน่นอน ดังนั้นช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยนะคุณๆ
อ่าวปิเละ (Pileh Lagoon)
จากอ่าวมาหยาพวกเราเดินทางต่อมายังอ่าวปิเละ ที่นี่ผู้เขียนเคยมาเมื่อตอนเป็นเด็กจำได้ว่าที่นี่สวยมาก เมื่อปีที่แล้วก็ได้มีโอกาสมาอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองมาทีไรก็ไม่เคยได้ไปเดินลงหาดทรายสักที แค่ถ่ายรูปบนเรือก็หมดเวลาแล้วจริงๆ
อ่าวปิเละ หรือปิเละลากูน ทะเลในเกาะพีพีเล คำว่า ลากูน (Lagoon) หรือทะเลในนั้นใช้เรียกแอ่งกว้างจนเกือบเป็นรูปทรงกลม โดยมีน้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง มีถ้ำทะเลเชื่อมต่อกับภายนอก ซึ่งด้านในแอ่งนี้ก็มักให้ความรู้สึกเหมือนอีกโลกหนึ่ง น้ำทะเลที่นี่ใสเป็นสีเขียวมรกต น้ำจะนิ่งและตื้นจนมองเห็นฝูงปลา ตรงก่อนเข้าอ่าวจะมีประการังสามารถดำน้ำดูปะการังได้
หากมาเป็น Day Trip เรือใหญ่จะจอดตรงหน้าอ่าวปิเละ ใครอยากมาถ่ายรูปต้องเช่าเรือหางยาวเข้าในลากูน เป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชนทางหนึ่งชาวบ้านแถวนี้จะได้มีอาชีพ โดยเมื่อเข้ามาในลากูนกิจกรรมที่เป็นที่นิยมก็คือ ถ่ายรูปบนเรือหางยาว และไปเดินเล่นหน้าหาด
พวกเราใช้เวลาอยู่นี่เกือบสองชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ 4 คน สองชั่วโมงเหลือๆ เพราะเวลาถ่ายรูปกันจริงๆ บนเรือถ่ายยากมาก เพราะต้องเดินสลับกัน อุปสรรค์อีกอย่างหนึ่งคือเรือซึ่งเยอะมากต้องให้คนเรือคอยหลบมุมหักหัวเรือให้ไม่เจอเรือลำอื่น ซึ่งไม่ง่ายเลยจริงๆ
อ่าวนุ้ย
หลังจากออกจากปิเละมาก็ราวๆ บ่ายแล้วล่ะ ต้องหาที่พักทานข้าวแล้ว จริงๆ ตามโปรแกรมต้องไปอีกหลายที่เลย แต่เนื่องจากพวกเราใช้เวลาไปหมดแล้ว จึงต้องตัดบางส่วนออกไป พี่คนเรือเลยพามากินข้าวที่อ่าวนุ้ยแทน เพราะที่อื่นคนเยอะมาก ไม่มีหาดให้ลงมาทานข้าว
อ่าวนุ้ยเป็นชายหาดไม่สวยนัก ถ้าดูจากสถานที่แล้วแต่ก่อนน่าจะเคยให้พักบนหาดนี้ แต่ตอนนี้เหลือแต่ซากที่พักแล้วล่ะ พวกเราเลือกจุดหนึ่งเพื่อนั่งทานข้าวและถ่ายรูปอีกเล็กน้อย (คำว่าเล็กน้อยคือนานตามประสาผู้หญิง)
อ่าวนี้คนน้อยมาก เหมือนเป็นที่ให้เรือมาจอดพักรอนักท่องเที่ยวมากกว่า ตอนแรกพวกเราจะเล่นน้ำกันที่นี่ พอทานข้าวกันเสร็จเริ่มง่วงประกอบอากาศร้อนมากจึงตัดสินใจกลับฝั่งกันดีกว่า ผู้หญิงกับคำว่า “ร้อนมาก” มักไม่ค่อยถูกโฉลกกันเท่าไหร่
พวกเราเดินทางกลับถึงฝั่งราวๆ บ่ายสองนิดๆ กว่าจะเดินมาที่พักก็เกือบบ่ายสามแล้วล่ะ ไหนๆ ก็มาถึงที่พักเร็วเราต้องไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ไปเล่นน้ำสระให้กันดีกว่าสระโรงแรมนี้ดีเลย หากใครจองบันยันรีสอร์ทมามีเวลาเหลือผู้เขียนแนะนำให้เล่นน้ำนะ ดูฝรั่งไปเพลินๆ ค่ะ
เล่นน้ำกันได้พักใหญ่เลย ก่อนที่จะเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมไปเช็คอินร้านกาแฟกันสักหน่อย มาเที่ยวทั้งทีเราต้องไปให้สุด ร้านไหนที่เราอยากกินเราต้องไปค่ะ
Qoori Qoori Cafe’
ร้านนี้เดินจากที่พักเรามาไม่ไกลมากนักมีคนรีวิวหลายคนเลยว่าขนมและกาแฟอร่อย พวกเราเลยสั่งมาครบเลย ขนมเค้ก ปิงซู และเครื่องดื่ม ใช้ได้ทุกอย่างใครมาพีพีอยากเช็คคาเฟ่ชิคๆ แนะนำร้านนี้ค่ะ
พิกัดร้าน :: https://g.page/QooriQoori?share
สบายใจเวลาได้กินของหวานนี่มันสดชื่นหัวใจจริงๆ ตอนแรกคิดว่าพีพีจะมีแต่บาร์เสียอีก มีคาเฟ่ด้วยเพลินๆ ดี หากใครมีเวลามาพักที่เกาะพีพีดอนกันค่ะ บนเกาะมีกิจกรรมให้ทำเยอะนะ นอกจากนั่งชิลในคาเฟ่แบบนี้แล้ว คืนนี้เราจะไปบาร์กันค่ะ ไปดูกันว่าเหงาๆ แบบนี้จะมีใครมาเที่ยวมั้งน้า ไว้ติดตามกันต่อตอนหน้านะคะ
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com