Phuket Ep.2 Koh Rok by Seastar Travel
Day 2 ดำน้ำ Koh Rok Queen of Andaman
จากที่พักหาดป่าตองพวกเราสามคนก็ขับรถเดินทางมายังท่าเรือ Seastar ณ บ้านเรือบ้านน้ำเค็ม โดยทริปนี้พวกเราก็จะไปดำน้ำกันที่เกาะรอกกันค่ะ เกาะรอกได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งอันดามันกันเลยทีเดียว ผู้เขียนเลยอยากไปดูสักครั้งหนึ่งให้เห็นกับตาว่าจะอลังการขนาดไหนนะ
พวกเรามาถึงท่าเรือก็หาที่จอดรถก่อนเลย มาเร็วก็จะได้ที่จอดรถดีหน่อย (ใกล้) แต่ไม่ต้องห่วงที่จอดรถเค้ามีเยอะ พอมาถึงเพื่อนโอ๋ก็เข้าไปเคลียเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าทัวร์ปกติราคา 2,250 บาท ทริปนี้เราใช้สิทธิ์โปรเที่ยวด้วยกันลดไปเยอะเลย ในวิกฤตก็มีโอกาสให้นักเดินทางอย่างเราเนี่ยแหละเที่ยวเมืองไทย ไม่ไปนี่เงียบนะ
สอบถามพี่ๆ ไกด์เค้าก็บอกว่าโควิดนี่เหงาเลย นักท่องเที่ยวไม่มีก็ไม่รู้จะทำอะไร ขอบคุณคนไทยที่มาเที่ยวกัน ช่วยให้พี่เค้าได้มีงานทำ เพราะสองปีที่ผ่านมาเหงามาก วิกฤตนี้น่าจะสร้างความทรงจำให้ใครหลายๆ คนรู้ว่า มันมีเหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ได้เช่นกัน ดังนั้นจงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและวางแผนเสมอนะคะ
ที่สำนักงานของบริษัท Seastar เค้าก็มีอุปกรณ์ครบมากเลยนะ ใครลืมอะไรก็ซื้อกันได้ที่ Shop แห่งนี้แหละ มีทุกอย่างให้เลือกสรรในเรื่องการดำน้ำ โดยทางบริษัทเค้าจะพวกอุปกรณ์ดำน้ำให้เรายืมอยู่แล้ว พร้อมผ้าขนหนูด้วย สิ่งที่เราต้องเตรียมมาก็เป็นผ้าปูสำหรับนั่งที่ทะเลเนี่ยแหละ
จากนั้นพอทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกรวมพลที่จุดนัด เพื่ออธิบายเรื่องทริปดำน้ำของเราในวันนี้ จะไปที่ไหนกันบ้าง อะไรที่ต้องระวังในการดำน้ำ ข้อห้ามในอุทยาน และเมื่ออธิบายเสร็จก็ให้พวกเราเดินไปลงเรือกันเลย ตรงนี้มีทริคมาฝากนะ พอเข้าอธิบายเสร็จก็ต้องส่งคนไปจองที่นั่งนะ เพราะถ้าได้ที่นั่งไม่ดีเนี่ยจะร้อนเนื่องจากใช้เวลาเดินทางจากฝั่งไปยังเกาะรอกนั้นประมาณสองชั่วโมงครึ่งเลยค่ะ
จุ้ยผู้ผ่านการท่องเที่ยวมาอย่างชำนาญรู้ทางอยู่แล้วเดินนำไปจองที่ก่อนเลย พวกเราเลือกนั่งตรงช่วงกลางด้านหน้าเพราะไม่ร้อนแน่นอน แล้วก็นั่งสบายด้วยเนื่องจากมีที่ว่างพอจะวางสัมภาระอันเยอะมากของพวกเรา ซึ่งเพื่อนโอ๋เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
จากนั้นเรือก็มาถึงยังจุดแรกคือ จุดดำน้ำเกาะรอกตื่นเต้นเลยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเกาะรอก ความลึกระดับ 10 เมตรได้ตรงที่จอดเรือ พวกเราก็ดำเข้าไปในแนวชายฝั่ง ก็มีปะการังเป็นจุดแล้วก็มีสัตว์น้ำหายากบ้างแต่ไม่เยอะ จุดแรกนี่ถือว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริง พี่ไกด์นี่บิ้วมากลงเถอะสวยมาก คือธรรมดามากเลยเพราะความที่เราดำในจุดที่เป็น The Best มาแล้วเช่นหมู่เกาะสุรินทร์
เช้านี้เลยเหมือนกันซ้อมดำน้ำที่ไม่ได้ดำมานาน เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ พวกเราใช้เวลาที่นี่ประมาณหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะขึ้นเรือไปยังที่ทำการอุทยานเกาะรอก สถานที่พักทานข้าวเที่ยงของทริปนี้ ซึ่งทุกบริษัทก็จะมาจอดพักกันที่นี่ให้พวกเราได้เดินเล่นชายหาดที่สวยงามบนที่พักอุทยาน เมื่อก่อนที่นี่เคยเปิดให้นักท่องเที่ยวมาพักที่นี่แต่ตอนนี้ไม่สามารถพักได้แล้ว
บนเกาะนี่สวยมากเลยนะ น้ำใสทะเลสวย ทัวร์จึงให้แวะพักที่นี่ประมาณสองชั่วโมง เพื่อทานข้าวเที่ยงที่ทางทัวร์จัดเตรียมไว้ ก็มีกับข้าวสามอย่างพร้อมอาหารทะเลซีฟู้ดพร้อมน้ำจิ้ม อาหารก็ใช้ได้นะสำหรับทริปนี้ เติมได้ด้วยนะแต่ไม่ไหวแล้วเดี๋ยวดำน้ำจุดต่อไปไม่ไหว พวกเราพอทานกันเสร็จก็ไปหาที่นั่งพักดูรูปที่บันทึกจากจุดดำน้ำแรก จากนั้นก็เดินถ่ายรูปกันเล็กน้อย ใครชอบถ่ายรูปตรงนี้ถ่ายรูปสวยนะ
พอนั่งชิลๆ กันสักพักพี่ไกด์ก็เรียกลงเรือเพื่อไปดำน้ำยังจุดต่อไปนั่นคือ “เกาะห้า” จริงๆ ผู้เขียนไม่ได้คาดหวังกับที่นี่เลยนะ คืออยากมาเกาะรอกแต่พอดำแล้วไม่ประทับใจเลยคือธรรมดามาก จึงไม่ได้คาดหวังกับเกาะห้าเท่าไหร่นัก พี่ไกด์ก็แนะนำว่าถ้าใครไม่ดำน้ำก็สามารถขึ้นเกาะไปถ่ายรูปบนชายหาดได้ ใครอยากดำน้ำก็ดำตรงจุดอ่าวนี่แหละ
อ่าวเหมือนจะดูไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่พอดำจริงๆ เพลินมากเลยนะ ที่นี่ปะการังซ้อนกันสวยมาก ปลาก็เยอะ ปลาดาวเป็นไฮไลท์สำหรับที่นี่เลย หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลันก็ไม่มีปลาดาวตัวใหญ่ๆ หลายสีแบบที่นี่นะ ดำไปดำมาก็ไปกับเกือบถึงชายหาดก็จะตื้นมากจนต้องลอยตัวดูแทน เพราะฟินยาว
ผู้เขียนชอบที่นี่เพราะน้ำไม่ลึกมาก ประมาณ 4 เมตรเห็นจะได้ เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นมากๆ เพราะไม่เหนือยดี พวกเราก็ดำกันไปคนละทิศคนละทางเรียกว่า มันสวยจนไม่สามารถหยุดได้ เพราะมันต้องลอยตัวตลอดเลยไหลไปเรื่อยๆ สำหรับเกาะห้าให้คะแนน 10 เลย พิกัดนี้ห้ามพลาดเพราะสวยมากจริงๆ อาจจะเป็นเพราะเพิ่งเปิดให้ดำน้ำด้วยล่ะ พักไปตั้งสองปีธรรมาชาตก็ได้ฟืนฟู ที่พวกเราต้องรีบมาเพราะถ้าเปิดประเทศนักท่องเที่ยวมากันเยอะก็จะไม่เหมือนตอนนี้แล้ว
สำหรับที่นี่สองชั่วโมงนี่ยังน้อยไปอยากอยู่นานๆ กว่านี้ วันที่พวกเรามาน้ำใสมาก อากาศดีด้วย พี่ไกด์บอกว่ามาที่นี่ต้องทำใจเพราะไม่ได้สวยทุกวัน แล้วแต่โชคชะตาก็ว่าได้ พวกเรานี่มากับดวงเลยจริงๆ วันนี้เป็นอีกทริปที่น่าจดจำมากเพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมวิดีโอกันได้ตามลิงค์นี้จ้า
จากนั้นพวกเราต้องเดินทางกลับไปยังภูเก็ตแล้วล่ะ ก็เป็นเวลาพอดีกับช่วงพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าเลย ขากลับก็ถามพี่ไกด์เรื่องร้านอาหารแนะนำ เค้าก็ให้ลายแทงมาหลายร้านเลย วันนี้พวกเราจะไปลองร้านที่มีชื่อว่า “น้ำย้อย” กันค่ะ ทริปนี้เป็นทริปแห่งมิชลีนล้วนๆ
ร้านนี้อาหารเค้าจะรสจัดแบบคนพื้นถิ่นเลยนะ เผ็ดทุกอย่างตามสไตล์อาหารใต้นะคะ เค้าได้รางวัลมิชลีนมาจากเมนู “กุ้งซอสมะขาม” บอกเลยว่ามาร้านนี้ต้องจัดนะคะ รสชาติสามรสของเค้าเนี่ยกลมกล่อมมาก กุ้งตัวใหญเนื้อแน่นอร่อยมากจริงๆ เลยนะ ใครมาภูเก็ตต้องมาลองนะจ๊ะ
กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ .. จัดไปจุ้ยเอาให้สุด เพื่อนอยากกินอะไรเราต้องไม่ขัด เดี๋ยวไม่ถูกจัดว่าเป็นเพื่อนรัก อยากกินอะไรลุยเพื่อน ไปทานขนมหวานในเมืองภูเก็ตกันต่อจ้า
ร้านปาท่องโก๋กลางคืน แค่เห็นก็อิ่มแล้วแต่เพื่อนอยากลองจัดไปเพื่อน ต่อด้วยขนมหวานไปให้สุดกันไปเลย ร้านเปิดกลางคืนเยอะเหมือนกันนะเนี่ยภูเก็ต มารอบนี้รู้สึกดีใจนะที่บรรยากาศความเป็นเมืองท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เพราะมาตอนหลังโควิดแบบปิดประเทศเลยนี่เหงามาก จนรู้สึกไม่ใช่นะนี่ไม่ใช่ภูเก็ตที่ชั้นรู้จักจริง วันที่สองของการดำนำเราก็จบลงพร้อมกับความแน่นมากจริงๆ ติดตามต่อกันต่อหน้านะค๊า เราจะไปพีพีกันค๊า
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com