EcoCozy ทริปนี้ที่ชะอำ
วีลแชร์เดี่ยวเที่ยวสนุกบุกชะอำ
ทริปนี้เป็นทริปเอาใจหลาน นานๆ หลานน้อยจะมาหาสักครั้ง การที่จะทำให้หลานจดจำพวกเราได้นั่นคือการทำกิจกรรมร่วมกันซึ่งสิ่งที่หลานน้อยชอบนั่นก็คือ “การเดินทางไปเที่ยวทะเล” และเราจะไปใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน ทริปนี้เราจองโรงแรมนี้จ้า รายละเอียดโรงแรมคลิ๊กลิงค์นี้ได้เลย Eco Cozy Beachfront




การเดินทางโดยมีผู้ป่วยติดเตียงไปด้วยเราต้องเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ยา อันนี้จำเป็นเพราะผิวคนป่วยเค้าจะแพ้ง่าย โดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นแผลแล้ว ดังนั้นยาและอุปกรณ์ทำแผลจึงสำคัญมาก ในกระเป๋ายานี้ต้องมีพลาสเตอร์ทุกขนาดเพราะเราไม่รู้หรอกว่าจะเป็นแผลใหญ่หรือเล็ก แพมเพริด์ต้องพร้อม ผ้าปูรองนอน ผ้าสำหรับเช็คตัว ผ้าห่ม และเตียงเสริมกันตก ด้วยความที่อุปกรณ์เยอะมาก กระเป๋าเตี่ยจึงใหญ่กว่าเพื่อน
ทริปนี้พวกเราเดินทางมาจากคนละทิศ โดยเราทีมสูงวัยเดินทางจากราชบุรีมุ่งหน้าสู่ชะอำ ส่วนทีมรุ่นเล็กเค้าเดินทางจากสุราษฏร์มุ่งสู่ชะอำ ซึ่งทีมรุ่นเล็กโชคไม่ดีเลยเจอน้ำท่วมชุมพรจึงทำให้ทีมใต้จะมาถึงที่พักช้ากว่าพวกเรามาก เพราะต้องขับรถอ้อมผ่านระนองมา

ทีมสูงวัยก็ทำอะไรไม่ได้เลยที่นี่ เดินถ่ายรูปเล่น นอนกลิ้งไปกลิ้งมารอหลานน้อย ซึ่งกว่าเด็กน้อยจะเดินทางมาถึงก็เกือบสี่ทุ่ม พวกเราไม่ได้เจอกันมาเป็นปีแล้วเนื่องจากสถานการณ์โควิดงดการเดินทางไปมาหาสู่กันเพราะกลัวหลานติดโควิด กว่าจะได้มาเจอกันก็พูดแจ้วๆ ได้แล้ว ยังจำภาพที่ไปอุ้มหลานน้อยลงจากรถได้เลย นางโตขึ้นมากไม่อยากให้นางโตกันเลย


พอได้เจอปู่กับย่าความเงียบสงบก็หายไปเพราะเสียงดังกันมาก นึกในใจดีนะที่แจ้งพนักงานไว้แล้วขอมุมที่สงบที่สุดเพื่อลดการรบกวนเรื่องเสียงไปยังห้องอื่น ความที่เด็กน้อยไม่ได้เจอกันนานประกอบกับเป็นวัยกำลังหัดพูด โห .. พูดไม่หยุดยันตีหนึ่งเลยทีเดียวกว่าจะได้นอนกัน
เช้าวันใหม่ ..
ความที่บ้านเราชิลมากเพราะมีแต่ผู้ใหญ่การตื่นสายจึงเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมหลานมาปลุกกันตั้งแต่หกโมงครึ่ง เป็นอะไรที่ไม่ใช่เวลาตื่นเลยจริงๆ แต่เพื่อหลานต้องกัดฟันตื่นมาเล่นกะนาง ที่มาเช้านี่ไม่ใช่อะไรนะปลุกให้พาไปเล่นน้ำทะเล โอ้ย .. ลูกแต่เช้าเลยหราาา


วันนี้การทานอาหารเช้าเป็นอะไรที่สนุกมาก เพราะสองเด็กน้อยมีความตื่นเต้นที่จะได้ป้อนข้าวก๊งก๋ง (เตี่ย) นั่นเอง ผลัดกันป้อนจนเตี่ยกินแทบไม่ทัน นานๆ ได้เห็นเตี่ยออกมาจากกล่องสีเหลี่ยม พอเจอหลานเค้าก็ยิ้มมีความสุข จริงๆ แล้วบั้นปลายชีวิตของคนสูงอายุไม่มีความสุขใด สุขเท่าการที่ได้อยู่ด้วยกัน
พอทานข้าวเช้ากันเสร็จ คนหนึ่งก็เฝ้าเตี่ยบนชายหาด คนหนึ่งก็ไปถ่ายรูปให้แม่ คนหนึ่งก็เลี้ยงหลาน แบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพก็ลุยเลย ย่าก็จะถ่ายรูปเพราะหลังๆ ย่าติดโซเชียล เริ่มเล่นเฟสบุ๊คเป็นเท่านั้นล่ะ งานถ่ายรูปก็ต้องมา หลานก็อยากเล่นน้ำ เยี่ยม!!



หลานก็ต้องระวัง ย่าก็อยากจะถ่ายรูป ชุลมุนวุ่นวายตามสไตล์บ้านบันเทิง บ้านเราเนี่ยถือให้เป็นบ้านที่ยืนหนึ่งเรื่องความบันเทิงมาแต่ไหนแต่ไร ความที่ลูกเยอะก็จะวุ่นวายหน่อย แล้วทุกคนเยอะหมดเลย เค้าเลยยกให้เป็นบ้านบันเทิงประจำกองบิน 7


วันนี้จึงเป็นวันที่สนุกมาก เพราะทุกคนเล่นน้ำกันหมด มีเพียงเตี่ยที่นั่งดูพวกเราอยู่บนชายหาด สำหรับเตี่ยแล้วแม้เตี่ยจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง เตี่ยก็ได้ออกมาเที่ยวข้างนอกบ้านเสมอ เพราะเราสังเกตุว่าการที่ได้ออกมานอกบ้านเค้าจะมีความสุข จึงต้องพาออกมาเที่ยวทุกเดือน
สำหรับการดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้นเค้าก็เหมือนเราเนี่ยแหละ ไม่อยากอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนอนมองเพดาน แค่เป็นโควิดพวกเราต้องอยู่แต่ในบ้านยังเบื่อจะแย่ นี่เค้าต้องนอนมองดูเพดานทุกวันมันน่าเบื่อขนาดไหน พ่อแม่เวลาเหลือน้อยกว่าเราเยอะ เรามีเวลาก็พาพ่อแม่เที่ยวกันคะ ไปเที่ยวต้อนมีชีวิตดีกว่าเอากระดูกพาไปเที่ยวเป็นไหนๆ เพราะสิ่งสำคัญคือความทรงจำที่ดีจะอยู่กันเราตลอดไป


ช่วงค่ำพวกเราก็ทานอาหารในโรงแรมเลย เพราะจะได้ใช้คูปองเที่ยวด้วยกันที่มีเยอะมาก โครงการนี้ดีมากๆ เลย ทำให้การไปเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่ประหยัดไปเยอะเลยจริงๆ เหมือนรัฐช่วยค่าอาหารเรา 40% นั่นแหละ อาหารที่โรงแรมนี้ก็ถือว่าอร่อยเลยล่ะ ที่นี่เป็นโรงแรมสำหรับครอบครัวจริงๆ

เวลามักผ่านไปไวเสมอ อะไรที่มีความสุขให้จงรีบทำ เพราะเวลาของพ่อแม่กับเวลาของเราเหลือไม่เท่ากันนะจ๊ะ เวลาเด็กๆ พ่อแม่เลี้ยงดูเรายังไง เค้าก็คาดหวังว่าเวลาที่เหลืออยู่เราจะดูแลเค้าแบบนั้น ยิ่งอายุเยอะก็จะเริ่มหลงๆ ลืมๆ การได้อยู่ใกล้ลูกหลานนับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสูงวัย
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com