เมธาวลัย .. เราไปชะอำกัน

วีลแชร์เดี่ยวเที่ยวสนุกพาไปบุกชะอำ

เมื่อก่อนเปิดเทอมที่แล้วหลานน้อยก็มาเที่ยวราชบุรี ปกติสองเด็กน้อยก็จะมากันทุกปีแต่ละปีจากเด็กตัวน้อยๆ ก็เริ่มโตขึ้นจนตอนนี้ 4 ขวบแล้ว มีความชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจ ช่วงนั้นไปทำงานหัวหินพอดีเลยพาสองเด็กน้อยไปทำงานด้วย แล้วก็มาแวะให้เล่นน้ำที่ชายหาดชะอำ

กว่าสามชั่วโมงที่ไม่ยอมขึ้นจากน้ำเล่นกันสนุกสนานมาก เพิ่งเคยสังเกตุชะอำก็วันนี้แหละทำไมเด็กๆ ถึงชอบทะเลชะอำ เพราะน้ำมันไม่ลึกมากยิ่งตอนเย็นๆ ยิ่งตื้นเข้าไปอีกสองเด็กน้อยเล่นน้ำกันสนุกมาก ขากลับตอนพาไปอาบน้ำก็มีประโยคไฮไลท์ว่า “โกเอน้องอยากนอนโรงแรมที่นี่เลยจะได้เล่นน้ำอีก” เป็นคำพูดจากพี่เรนนี่แฝดผู้พี่ที่มีความชอบนอนโรงแรมและชอบความสบายเหมือนป้าเด๊ะ

หลานพูดขนาดนั้นกลับมาก็เล็งโรงแรมกันเลย ช่วงนั้นมีโปรเที่ยวด้วยกันด้วยพวกเราเลยเลือกโรงแรมเมธาวลัย เพราะจากที่ไปมาโรงแรมนี้ทำเลดีสุดเดินออกจากโรงแรมมานิดเดียวก็จะถึงจุดที่น้ำทะเลไม่ลึกมาก แถมมีที่นั่งให้เช่าสะดวกสบายติดทะเลแบบไม่ต้องเดินเหนื่อยมาดูหลาน ปกติโรงแรมก็ราคาประมาณ 1,600 – 1,800 บาทเนี่ยแหละ จองโปรเที่ยวด้วยกันเหลือคืนละ 900 บาทเองล่ะ

วันเดินทางพวกเราก็ขับรถไปกันสองคัน ที่นี่วีลแชร์มาได้สบายมากเพราะมีทางเข็นสำหรับวีลแชร์สะดวกสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุมาด้วยค่ะ พวกเรามาถึงเกือบเที่ยงก็ขนสัมภาระอันมากมายเหมือนจะย้ายบ้านเข้าห้องพักพวกเราจองไว้ 1 คืนสามห้องติดกัน มาดูห้องพักกันค่ะ

ห้องพักเค้าเพิ่งรีโนเวทใหม่ถือว่าดีมากเลยนะกับราคาเบาๆ ขนาดนี้ ห้องใหญ่มากชนิดที่ว่านอนสองคนนี่เหงาๆ เลยล่ะ มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่มากระเบียงหน้าห้องก็กว้างมากนั่งกันได้สัก 6 คนสบายๆ มาถึงก็สั่งอาหารโรงแรมทานก่อนเลยเพราะสามารถใช้คูปองไทยเที่ยวไทยได้

อาหารโรงแรมก็ถือว่าใช้ได้เลยนะราคาก็มาตรฐานโรงแรมทั่วไป เสริฟ์ถึงห้องนอนรอกันสบายๆ พอทานอาหารกันเสร็จก็พักกันแป๊บหนึ่งเนื่องจากเดินทางมาไกลพอสมควรให้เตี่ยได้หลับสักงีบก่อน พออายุเยอะแล้วทานอาหารเสร็จจะต้องหลับมันเป็นวงจรชีวิตของคนวัยนี้

เตี่ยเป็นผู้ป่วยติดเตียงจึงต้องระวังเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการเซฟเวลาพามานอนโรงแรมน้อยครั้งมากที่จะนอนบนเตียง ถ้าไม่เจอเตียงแบบ Kingsize ก็จะเอาเบาะลงมาเพื่อลดระดับความเสี่ยง ถ้าปล่อยไว้คนเดียวเดี๋ยวกลิ้งตกเตียง ดังนั้นเวลามาโรงแรมก็จะวางทิปให้แม่บ้านไว้ เพราะพวกเราจะรื้อเตียงเค้าหนักมาก แต่ก็เอาเก็บไว้ที่เดิมทุกครั้งนะ

ระหว่างที่ทีมสองดูแลผู้สูงอายุอยู่ด้านบน ทีมหนึ่งก็พาเด็กน้อยลงไปเล่นน้ำตั้งแต่เที่ยง เวลาไปเที่ยวเราจะแบ่งกันเป็นสองส่วนทีมดูเด็กและทีมดูคนสูงอายุ นี่จะบ่ายสามแล้วยังไม่มีทีท่าว่าทีมหนึ่งเด็กน้อยจะพักผ่อนยังคงมีความสุขกับการเล่นน้ำในเวลาที่ร้อนมากของเมืองไทย

พอทีมสองหลับกันสักหน่อยแล้ว พวกเราก็พาเตี่ยและแม่ลงไปชายหาด การเข็นวีลแชร์บนทรายไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ต้องใช้พลังงานหลายคนช่วยกันเข็นแบบเดอะฟาสไม่งั้นล้อติด ก็ทุลักทุเลพอสมควรแต่ก็สำเร็จ

เวลาเป็นผู้ป่วยติดเตียงสิ่งที่เค้าเห็นทุกวันคือเพดานและทีวี มันน่าเบื่อมากเลยนะ ถ้ามีเวลาพวกเราก็จะพยายามพาเตี่ยออกนอกบ้านไปกินข้าวหรือไปเที่ยวเพื่อให้เค้าได้มองอย่างอื่นบ้าง เวลากลับไปบ้านเค้าก็จะมีความสุข การเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่ใช่อยู่แต่บนเตียง เค้าก็เหมือนเราเนี่ยแหละอยากมีชีวิตแต่แค่สังขารมันไม่เอื้ออำนวย

ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมาพวกเราไปไหนเตี่ยก็จะไปด้วย เป็นการใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่าง ถ้าไม่มีคนช่วยยกก็ใช้น้องที่โรงแรมเนี่ยแหละช่วยยก เพราะหลักๆ จะมีปัญหาแค่ยกขึ้นและลงรถเท่านั้นล่ะ ที่เหลือพวกเราก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว เพราะดูแลเค้ามานาน

มีคนบอกว่ามีเงินก็สบายได้ยามบั้นปลายชีวิต มันก็ไม่ผิดนะแต่ถ้ามีคนดูแลยามชราจะมีค่ากว่าเงินทองมากมาย เพราะยามชราร่างกายเราไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามวัยสิ่งสำคัญมากกว่าเงินทองคือครอบครัวที่ต้องช่วยเหลือและดูแลยามแก่ชรานั่นแหละถึงเรียกว่า “Perfect Life”

ระหว่างที่ทุกคนนั่งชิลกันอยู่ในร่มชายหาด สองเด็กน้อยก็เล่นน้ำแบบสุดชีวิต ไปเจอหลานอีกทีทำไมหลานดำขนาดนี้ล่ะลูก หลานเราไวต่อแสงแหละดูออก ช่วงชีวิตวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ไม่ต้องรับรู้อะไรใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ ช่วงวัยนี้พวกเราจึงต้องเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตเค้าให้มาก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้

ตัดภาพกลับมาฝั่งทีมสูงวัย การมาทะเลแต่ละครั้งเค้าก็จะเตรียมพร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องชุด เรื่องพร็อบ เพื่อนๆ ที่ทำงานชอบบอกว่านี่บังคับแม่หรือเปล่าเนี่ย ถามจริงตอบตรงเลยว่า “เค้าจัดการเค้าเอง”

พวกเราเวลารวมตัวกันเพื่อหลานก็จะสนุกสนาน เพราะพวกเราจะเหมือนๆ กัน เตี่ยกับแม่พาเที่ยวตั้งแต่เล็กๆ พวกเราเลยชอบเที่ยวและเข้าใจในแต่ละช่วงวัยเนื่องจากการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเราคุ้นชินกันมาตั้งแต่เด็กๆ ว่างเมื่อไหร่เตี่ยก็จะพาไปเล่นทะเลแถวใกล้บ้าน สมัยนี้ก็คงเรียกวิถีแบบนั้นว่า “แคมป์ปิ้ง” แหละ

หลังจากเล่นน้ำทะเลกันอย่างจุใจแล้ว ผู้เขียนเพิ่งรู้ว่า “ทำไมเด็กๆ ชอบมาหาดชะอำ?” ก็วันนี้แหละ เพราะน้ำมันตื้นเค้าเล่นได้สบายมากแม้จะลงไปลึกน้ำก็ยังไม่ลึกอยู่ดี ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของเด็กน้อยที่ชื่นชอบทะเล

เล่นทะเลมันยังไม่จุใจหลานๆ ผู้ไวต่อแสงก็มาเล่นน้ำสระกันต่อถึงหนึ่งทุ่ม ขุ่นพระ!! เลยจริงๆ เด็กนี่พลังเยอะมากเค้าถึงบอกว่าเวลาเด็กอยากทำอะไรให้รีบทำซะนะ พออายุเยอะหลายๆ กิจกรรมเราก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว

หลังจากอาบน้ำกันเรียบร้อยก็ได้เวลาทานข้าว มื้อเย็นนี้ความที่ไม่อยากขนประชากรออกไปไหนแล้วก็เลยซื้ออาหารแถวนั้นเข้ามาทานกันในโรงแรม ประกอบกับวันนี้เป็นวันเกิดของผู้เขียนหลานก็จะทำเซอร์ไพรส์ ซึ่งจริงๆ ดูจากอาการแล้วรอทานเค้กอยู่นั่นแหละ เพราะระหว่างที่ร้องเพลงก็แอบหยิบของตกแต่งบนขนมเค้กกินทีละอัน พอได้ทานเค้กเสร็จก็หนีไปนอนเลย เยี่ยมมากลูกเอ้ยเราต้องเป็นคนชัดเจน!!

เช้าวันใหม่..

ทำไมวันนี้เงียบๆ ปกติตัวป่วยจะต้องเดินไปเดินมาแล้ว ไปดูที่ห้องหน้าตามอารมณ์บ่อจอยเลย ป่วยสิครับก็ลูกเล่นน้ำกันหมดพลังเช่นนั้น ทีมหนึ่งเลยต้องเลี้ยงเด็กกันไป ส่วนทีมสองก็พาสูงวัยมาทานข้าวข้างล่างโรงแรม อาหารเช้าโรงแรมนี้เข้าท่าเลยนะ ไลน์อาหารเช้าใช้ได้เลยกับราคาประมาณนี้ มีชาเย็นชงด้วยนะไม่ได้ทานปาท่องโก๋กับชาเย็นนานมากแล้ว

ทองสุขผู้ชื่นชอบในไลน์อาหารเช้าไปโรงแรมไหนวนมันอยู่ประมาณยี่สิบรอบ ปักหลักกันตั้งแต่ 6.30 ยาวไปยัน 10.00 เช้า เป็นเรื่องปกติของคุณนายแม่ดังนั้นเวลาจองโรงแรมเลยต้องเลือกโรงแรมไลน์อาหารเยอะๆ ให้เค้าได้เพลิดเพลินไปกับการกินของเค้า คนสูงวัยเลี้ยงไม่ยากถ้าเข้าใจในความต้องการ

พอทานอาหารเสร็จก็เดินมาดูสระน้ำ แม่บอกว่า “อยากเล่นน้ำอ่ะ” จัดไปค่ะมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเอาที่สบายใจของเธอเลยจ๊ะ สระน้ำที่นี้มีหลายสระน้ำสะอาด มีจากุซซี่ด้วยนะเพลินเลยแม่ฉัน

แม่ก็เล่นน้ำไปลูกๆ ก็ถ่ายรูปกันไป แบ่งหน้าที่กันชัดเจนเพิ่งรู้ว่าการมีลูกเยอะมันก็ดีตรงนี้แหละ แต่ก่อนเราก็รู้สึกว่าทำไมคนเยอะจัง พออายุเยอะการมีคนเยอะๆ ในบ้านมันคือการทำงานเป็นทีมที่ดี ถ้าเราจัดคิวกันให้เรียบร้อยกำลังคนเราจะเยอะมากในการไปเที่ยวที่ไหนก็จะสบายเพราะแบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งดูแม่ คนหนึ่งดูเตี่ย คนหนึ่งดูหลาน

ทริปพาหลานไปเที่ยวทะเลก็จบลงด้วยการปิดทริปที่ครัวเม็ดทราย เพราะต้องมาใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันให้จบ การใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันจองล่วงหน้าเนี่ยประหยัดค่าใช้จ้ายไปได้เยอะนะ เพราะลดค่าที่พักแล้วยังลดค่าอาหารด้วย แค่เราต้องเลือกโรงแรมและร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการให้ดีแค่นั้นเอง ทริปนี้หมดค่าโรงแรมไป 1,800 บาท ค่าอาหารสองมื้อที่ใช้เที่ยวด้วยกันประมาณ 3,000 เองล่ะ การวางแผนดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งนะ

ติดตามต่อกันตอนหน้านะจ๊ะ ว่าพวกเราวีลแชร์เดี่ยวเที่ยวสนุกจะไปที่ไหนกันอีกค๊า ไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ

เมธาวลัย .. เราไปชะอำกัน


Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *