เยือนถิ่นเมืองย่าโม
ในประเทศไทยผู้เขียนก็เดินทางมาเยอะเหมือนกันแต่โซนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสเดินทางไปคือโซนอีสาน สงสัยไม่ใช่แนววัดเลยไม่ค่อยได้ไปแฮะ แต่จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยไปเที่ยวเมืองย่าโมนะ ตอนนั้นน้องๆ เนี่ยแหละชวนไปก็เลยได้ไปเที่ยวเมืองย่าโม
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังโคราชก็นานเหมือนกันเนอะ เส้นที่นี่ไม่ค่อยอยากไปเพราะรถเยอะมากยิ่งช่วงเทศกาล ยิ่งไม่ชอบคนเยอะๆ น่าจะเป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยไปเมืองที่ต้องใช้รถเดินทาง ส่วนใหญ่จะได้ไปเมืองที่มีสนามบินลงเสียมากกว่า
จำได้ว่าน้องๆ พาไปกินข้าวโรงทานที่วัดสรพงษ์เป็นคนสร้าง คนเยอะมากจำได้ว่าเจอสรพงษ์ด้วยนะ ใครอยากเจอก็ไปวัดนี้แหละซึ่งวันที่ไปยังเจออยู่เลย พอช่วงโควิดนั้นแหละถึงได้ข่าวการเสียชีวิตของสรพงษ์พระเอกดังของประเทศไทยสมัยก่อนเลย
วัดสวยมากเรียกว่าอลังการเมืองโคราชเลยดีกว่า พื้นที่วัดกว้างขวางและร่มรื่น คุณสรพงษ์ก็เป็นกันเองกับทุกคนมากหน้าตาเหมือนเดิมเลยจริงๆ มาที่นี่กันทั้งทีก็ได้เข้าไปไหว้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) หรือที่เรียกกันว่า หลวงปู่โต เป็นรูปหล่อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว ความสูง 13 เมตร และน้ำหนัก 61 ตัน ใหญ่มากเห็นถึงพลังแห่งศรัทธาเลย
จากนั้นก็เข้าเมืองโคราชแล้วก็ได้มาเมืองโคราชแล้ว ภาพที่เราเคยเห็นรูปปั้นย่าโมเราก็เข้าใจว่าท่านต้ององค์สูงใหญ่แน่ๆ พอได้มาจริงๆ ท่านองค์ไม่ใหญ่มากเหมือนในความคิดเลย แต่ผู้คนก็ศรัทธามากใครมาเมืองนี้ก็ต้องมาไหว้ย่าโมแหละ
มีคนบอกว่าถ้ามาไหว้ย่าโม่ให้มารอดประตูชุมพลจะได้เป็นลูกหลานย่าโม่ ระหว่างที่เดินรอดอยู่นั้นก็หันไปเห็นแผงล็อตตารี่จากที่จะไปขอเขยเมืองย่าโม ความคิดก็เปลี่ยนไปกลายเป็นขอหวยแทนซะงั้น แถมไม่ถูกด้วยสงสัยประตูนี้น่าจะเอาไว้ขอเขยเมืองนี้เท่านั้นแหละ แล้วลูกก็ได้มานมัสการวีรสตรีในอดีตแห่งเมืองโคราช
จากนั้นก็ไปต่อกันที่วัดศาลาลอยเหมือนตอนนั้นหมอลักษณ์เนี่ยแหละให้มาไหว้อะไรแล้วน้าลืมที่นี่พวกเราก็เลยมาไหว้กัน พ่อแม่สอนนี่ไม่เชื่อนะต้องหมอดูล่ะเชื่อจัง เราเป็นคนไทยเลยต้องฝักใฝ่ในหมอดู 555
วัดศาลาลอย เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สร้างขึ้นกับสามี หลังจากที่รบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 หลังจากเสร็จศึกสงครามที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมาคุณหญิงโมได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคองพร้อมตั้งจิตอธิฐาน หากแพรูปศาลานี้ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคองซึ่งเป็นวัดร้าง จึงได้สร้างพระอุโบสถขึ้นเป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบันนั่นเอง
สรุปการไปเที่ยวโคราชของเราส่วนใหญ่ก็ไปไหว้พระทั้งทริป งานสายมูต้องมาชีวิตคนไทยมีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกที่จริงจัง เพราะเราหวังพึ่งอะไรไม่ได้นอกจากตัวเราเองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 555
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com