เขาพนมรุ้ง (Buriram)
Day 2.2 เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง


อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร เขาพนมรุ้ง ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)

สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรม การจำหลักลวดลายการเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขามีแผนผัง ตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้าง ต่าง ๆ เรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง คือ ปราสาทประธาน
จากงานก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่นี้ชวนให้เกิดความสงสัยและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าคนในสมัยโบราณสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา

ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์และ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย




ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ของปราสาทพนมรุ้ง เป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทยที่เชื่อว่าถูกโจรกรรมไปเมื่อราวปี พ.ศ. 2503 ในช่วงสงครามเวียดนาม และถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่สถาบันศิลปะชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐ แต่ในที่สุดชาวไทยนำโดยรัฐบาล และ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ก็ได้ทับหลังชิ้นนี้คืนมาในปี พ.ศ. 2531

สมัยเด็กๆ จำได้เลยว่า เรื่องทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ สมบัติชาติชิ้นนี้ เป็นข่าวโด่งดังมาก เรียกว่าเด็กยุค 80 ต้องได้ยินชื่อนี้แน่นอน ถึงขนาดพี่แอ๊ดคาราบาวแต่งเพลงขึ้นมาเลย เนื้อความไฮไลท์มีอยู่ว่า “เอาไมเคิลแจคสันคืนไป เอาทับนารายณ์คืนมา” เป็นเพลงฮิตติดหูในสมัยนั้นเลยทีเดียว ลองไปหาฟังใน youtube เอาดูนะ

สะพานนาคราช เป็นทางเดินทั้งสองข้างประดับด้วยเสามียอดคล้ายดอกบัวตูมเรียกว่าเสานางเรียงจำนวนข้างละ 35 ต้น ทอดตัวไปยังสะพานนาคราชซึ่งผังกากบาทยกพื้นสูง ราวสะพานทำเป็นลำตัวพญานาค 5 เศียร สะพานนาคราชนี้ ตามความเชื่อเป็นทางที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ กับเทพเจ้า
สิ่งที่น่าสนใจคือ จุดกึ่งกลางสะพาน มีภาพจำหลักรูปดอกบัวแปดกลีบ อาจหมายถึงเทพประจำทิศทั้งแปดในศาสนาฮินดู หรือเป็นจุดที่ผู้มาทำการบูชาตั้งจิตอธิษฐาน จากสะพานนาคราชชั้นที่ 1 มีบันไดจำนวน 52 ขั้นขึ้นไปยังลานบนยอดเขา หน้าซุ้มประตูระเบียงคดทิศตะวันออกมีสะพานนาคราชชั้นที่ 2 ระเบียงคดก่อเป็นห้องยาวต่อเนื่องกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารอบลานปราสาท
แต่ไม่สามารถเดินทะลุถึงกันได้เพราะมีผนังกั้นอยู่เป็นช่วง ๆ มีซุ้มประตูกึ่งกลางของแต่ละด้าน ที่มุมระเบียงคดทำเป็นซุ้มกากบาทที่หน้าบันของระเบียงคดทิศตะวันออกด้านนอก มีภาพจำหลักรูปฤๅษีซึงหมายถึงพระศิวะในปางที่เป็นผู้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และอาจรวมหมายถึง นเรนทราทิตย์ ผู้ก่อสร้างปราสาทประธานแห่งนี้ด้วย


ประสาทหินแห่งนี้มีความใหญ่โตมโหฬารมาก ถ้าเป็นสมัยก่อนที่นี่คงงดงาม เพราะดูจากโลเคชั่นและลักษณะปราสาทแล้วออกแบบมาได้ดีมาก หากใครต้องการมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้มาช่วงเวลา วันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน ของทุกปี
ดวงอาทิตย์ขึ้นส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน ช่อง ชาวบ้านจะเดินเท้าขึ้นมาเพื่อชมความอลังการที่ผสานระหว่างธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างของบรรพชน นอกจากนี้ในวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี ดวงอาทิตย์ก็ตกส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน เช่นกัน มีความเชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธิ์ การรับแสงอาทิตย์ที่สอดส่องผ่านศิวลึงค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางปราสาทเขาพนมรุ้งเป็นการเสริมพลังชีวิตและความเป็นสิ่งมงคลกับตนเองและครอบครัวของผู้ที่พบเห็น
นี่ถ้าให้ขึ้นจากทางด้านหน้าใกลเอาเรื่องเลยนะ ต้องใช้เวลาเยี่ยมชมเป็นวันเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ถ้าคนเดินจากด้านหน้าจะมีรถมารับทางด้านหลัง แต่ด้วยความที่เราเดินกันไกลไม่ไหว ป๋าเลยจอดด้านหลังเดินขึ้นจากด้านหลังแทน ระยะทางใกล้กว่าและเหนื่อยน้อยกว่า อันนี้เป็นเส้นทางแนะนำสำหรับสูงวัยเลยนะคะ
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com