บ้านนอกฮอกควาย Ep.5

โฮมสเตย์ชิลๆ ณ เมืองคอง

ตอนที่แล้วผู้เขียนเล่าถึง “โฮมสเตย์ฮักเมืองคอง” มาตอนนี้พวกเราก็ย้ายที่กันอีกรอบจ้า ไหนๆ มาแล้วพักคืนละวันให้มันสำราญใจไปจ๊ะ พวกเราออกจากฮักเมืองคองโฮมสเตย์มาประมาณเที่ยง ภารกิจแรกหาข้าวกินกันก่อนเพราะเที่ยงแล้ว วนไปวนมาก็หาทานกันในหมู่บ้านเนี่ยแหละสะดวกดี

ตอนแรกว่าจะไปกินป้านุชอีกรอบ แต่อยากลองร้านใหม่ๆ ดูบ้าง ร้านนี้ก็พอใช้ได้นะก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกพวกอาหารตามสั่งก็โอเคนะ ร้านในเมืองคองเนี่ยมีให้เลือกไม่กี่ร้านหรอก ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหารของคนในพื้นที่ ไม่ต้องหานะคาเฟ่ชิคๆ แถวนี้ไม่มีจ้า

มีแต่ร้านขายกล้วยทอด ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว แบบธรรมดาเลยเป็นวิถีชุมชนอันแท้ทรู เลยไปหน่อยมีป้ายเมืองคองอันใหญ่มาก ไหนๆ มาแล้วแวะเช็คอินกันเสียหน่อย แก๊งค์เรานี่ก็เที่ยวกันมาตั้งแต่สาวๆ มาตอนนี้ก็ยังเที่ยวด้วยกันอยู่ เคยนึกๆ เหมือนกันว่าต่อไปพวกเราจะเที่ยวกันแบบไหนน้า

บ้านนอกฮอกควาย

จากเมืองคองพวกเรามาตามเส้นทางเรื่อยๆ ซึ่งไม่ไกลนักก็มาถึงที่พักคืนสุดท้าย ณ เมืองคองของพวกเรา นั่นก็คือ “บ้านนอกฮอกควาย” เป็นโฮมสเตย์ไม่เล็กนะ กว้างขวางใช้ได้เลย มาดูบ้านพักภาพรวมของที่นี่กันค่ะ

ที่นี่มีบ้านพักหลายแบบแต่เห็นแบบนี้จองมาล่วงหน้านะคะ อย่าได้คิด Walkin เพราะเต็มตลอดโดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ บ้านแต่ละแบบพักได้ไม่เท่ากัน ตอนแรกตั้งใจจะจองบ้านที่มีสองชั้นนอนกัน 5 คน สบายๆ แต่เต็มเลยต้องแยกกันได้ห้องคนละโซน

ห้องของหญิงนุชและเพื่อนจุ้ยเดินไกลมาก ความที่ห้องมันเหลือแค่สองห้องก็ต้องแยกกัน จะเดินไปหากันนี่เดินอย่างไกล พวกเราเลยแพลนว่าจะทานข้าวกันที่ห้องนี้ แล้วค่อยเดินกลับไปนอนอีกห้องหนึ่ง ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำแบบ open air ด้วยนะ ไม่อยากบอกเลยว่าอากาศหนาวๆ นอนแชร์อ่างน้ำเย็นฟินถึงกระดูกเลยจ้า

ห้องนี้เป็นห้องของผู้เขียนและเพื่อนแก้วกับเมย์ ห้องนี้เค้าให้เสริมเตียงได้ มีห้องน้ำในตัว อ่างอาบน้ำและชานนั่งเล่นหน้าห้องเป็นตะข่าย โฮมสเตย์แบบนี้ผู้เขียนโอเคนะ ธรรมชาติแต่ไม่ลำบากมาก ไม่มีแมลงเท่าไหร่ อันนี้พอไหวเพราะไม่ค่อยชอบสัตว์แปลกๆ

นอกจากที่นี่จะเป็นที่พักแล้วที่นี่ยังมีคาเฟ่ด้วยนะ ตั้งแต่อยู่เมืองคองมาก็เนี่ยแหละคาเฟ่แห่งแรกที่เห็น รสชาติก็ดีอยู่ส่วนใหญ่ถ้าไม่มาพักก็มาคาเฟ่ที่นี่แหละ วิวหลักล้านมาก ยิ่งหลังฝนหมอกลงเนี่ยอย่างสวย พวกเราก็นั่งคาเฟ่กันสักพักจนน้องมีของมานำเสนอ เหล้าขาวที่ทำจากข้าวที่นาแห่งนี้เค้าให้ลองชิมดู เฮ้ย .. คือดีเลยอากาศหนาวๆ ได้เหล้าขาวย้อมใจ ใครมาลองดูนะคะเรื่องของแปลกเนี่ยทางถนัด

จากนั้นพวกเราสาวๆ ก็กลับบ้านมาตีฟองในอ่างหญิงนุชเตรียมอุปกรณ์มาพร้อมมาก เพื่อการถ่ายรูปวิวนาในอ่างน้ำตามรีวิว เวลามาทำจริงๆ หน้างานมันไม่ง่ายอย่างที่คิดฟองไม่ขึ้น จะฮาไปไหน!! ช่วยกันตีใหญ่เลยที่นี่ รู้งี้เอาแฟ้บมาด้วยดีกว่า 555

กว่าจะได้รูปอย่างที่เห็นถ่ายกันเป็นร้อยตีฟองกันหน้ามืดเลยทีเดียว น้ำบาดาลมันตีฟองยากไม่เหมือนกับน้ำประปา เราลืมคิดจุดนี้ไปนี่ขนาดหญิงนุชใส่หมด 5 ซองยังขึ้นแค่นี้เลย ดังนั้นใครอยากได้วิวนี้เตรียมฟองมาตีสัก 10 ห่อนะจ๊ะ กว่าจะถ่ายรูปกันเสร็จเซตนี้เนี่ยก็เย็นแล้วล่ะ

จากนั้นพวกเราที่อยู่ห้องอีกฝั่งก็เดินออกมากำลังจะไปห้องพักก็มีคนมาขายของแปลกอีกแระ ไม่รู้ทำไมเดินกันสามคนไม่ถาม ชอบถามผู้เขียนเนี่ยแหละ ไอ้เราก็ใจง่ายใครให้ลองอะไรก็ลองหมดแหละ “ไก่กระบอก” ฟังดูแล้วแปลกดี “โอเคดีลพี่มาส่งตอนหนึ่งทุ่มนะ”

พวกเราสั่งอาหารในที่พักเนี่ยแหละ เพราะดูจากรอบๆ แล้วไม่น่ามีร้านอาหารอะไรแน่นอน กะว่าเราเข้าที่พักแล้วจะไม่ย้ายไปไหนแล้วก็ทานกันง่ายๆ เลย เครื่องดื่มพวกเราก็เตรียมกันมาอยู่แล้ว วันนี้วันเคลียขนมและเครื่องดื่ม

อาหารที่นี่ก็ใช้ได้อยู่นะ แต่ที่สตั้นก็คือไก่กระบอกเนี่ยแหละ กินจนจะหมดกระบอกแล้วเนื้อไม่มีเลย สงสัยไก่ที่นี่แข็งแรงมีแต่หนังกับกระดูกเนื้อไม่มีเลยจริงๆ แต่รสชาตดีนะดูจากซากที่บ้านพักไก่กระบอกเนี่ยน่าจะโดนทุกบ้าน มาแล้วก็ลองดูนะ ถ้าเป็นไก่เนื้อนี่จะอร่อยมากอ่ะ

เที่ยงคืนกว่าเริ่มเย็นแล้วก็ได้เวลาแยกย้ายกลับที่พัก เดินๆ อยู่ไฟก็ดับแบบดับทั้งโฮมสเตย์เลย เอาแล้วไงตรูยังไม่ได้อาบน้ำเลย ไม่ต้องถามหาเครื่องทำน้ำอุ่นไฟยังไม่มีเลยตอนนี้ มีเพื่อนแก้วคนเดียวใจถึงมากมาถึงอาบน้ำหลับไปเลย เอาไงดีวะ .. หาพวกดีกว่าถาม “เพื่อนเมย์อาบน้ำป่ะวะ?” พอเพื่อนบอกว่าไม่อาบหรอกหนาว โอเค .. รู้เรื่องตรูมีเพื่อนแระอาบน้ำทิพย์นอนเลยแระกัน ไฟก็ไม่มีน้ำก็เย็นอากาศก็โครตเย็น .. ไม่อาบแล้วเว้ยน้ำ!! ลาก๋อย

เช้าวันใหม่..

อากาศดี๊ดี .. ไม่มีหรอกนะภาพพระอาทิตย์ขึ้นเป็นบล็อกเกอร์สายขี้เกียจ ไปดูรูปจากคนอื่นเอานะจ๊ะ แบบว่าไปพักผ่อนจะตื่นไมเช้าไม่ใช่ทางของผู้เขียนเลยจริงๆ ยิ่งวันนี้ฝนตั้งแต่เช้าเลยยิ่งเข้าทางถ้าเพื่อนไม่ปลุกมากินข้าวนี่ไม่ตื่นหรอก เพื่อนเลยเรียกว่า “คุณนาย” ตื่นสายตลอด

ที่นี่เค้ามีอาหารเช้าให้ด้วยนะเป็นข้าวต้มหมู กาแฟและขนมปัง บอกเวลาเค้าว่าจะทานตอนกี่โมงเค้าจะเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะ ส่วนไข่ลวกก็สามารถสั่งเพิ่มเอาได้ ครัวเค้าเปิดแต่เช้าใครอยากทานอย่างอื่นก็สั่งที่ครัวได้เลย ข้าวต้มที่นี่อร่อยดีนะ ฟาดกับเรียบ อากาศเย็นๆ กินข้าวต้มร้อนๆ ยามเช้านี่มันดีต่อใจมาก

กาแฟบ้านๆ แต่วิวหลักล้านมากเลย ถือว่าเค้าทำโฮมสเตย์ได้ดีมากๆ เลยนะ ที่นาอย่างเยอะข้าวก็เก็บเกี่ยวได้ แถมขายวิวนักท่องเที่ยวได้อีกสร้างมูลค่าเพิ่มแบบฉบับบ้านทุ่งมาก พี่เจ้าของก็ใจดีขอโทษขอโพยใหญ่เรื่องไฟดับเมื่อคืน เหมือนไฟไม่พอเลยดับหมด เครื่องปั่นไฟน่าจะน็อคไปด้วย พี่แกบอกว่าปกติไม่ดับนะ เอิ่ม.. ช่างดวงดีซะนี่กระไรเรา

พอทานกันเสร็จก็เดินถ่ายรูปในโฮมสเตย์เนี่ยแหละ อยู่ตั้งไกลยังดั้นด้นมากันเนอะพวกเราอ่ะ มาแล้วต้องใช้วิวให้คุ้ม เก็บมันทุกมุม หญิงนุชบอกว่าปีหน้าจะจองบ้านหลังใหญ่มากันใหม่นะ

จริงๆ ต้องขอบคุณเพื่อนๆ แก๊งค์นี้มาก เพราะถึงแม้เพื่อนจะมากันเป็นคู่เพื่อนก็น่ารักมากให้สิทธิ์เรามาเที่ยวแบบไม่มีคู่ บอกเพื่อนแล้วว่าขอใช้สิทธิ์ไปจนอายุ 60 นะ ไปไหนไปด้วย ไม่รู้ล่ะ!! นึกในใจกะว่าตอน 61 จะขอต่อวีซ่าใหม่ 555

ทริปนี้เสียดายถ้าฝนไม่ตกคงได้เล่นล่องห่วงยาง แต่ดูจากน้ำเอาจริงๆ ต่อให้ฝนไม่ตกน้ำสีนี้ ผู้เขียนก็ขอบายนะ เราจะไม่เสี่ยงกับอะไรที่ไม่ปลอดภัย ง่ายๆ คือกลัวตายนั่นเอง ได้ไงล่ะยังใช้ชีวิตโสดไม่คุ้มนะ จะมาตายเพราะตกน้ำเนี่ยร้องไห้นะบอกเลย

บายๆ นะดอยหลวงเชียงดาว ไว้โอกาสหน้าเราจะมาหาเธอใหม่!!

ตอนนี้คอกาแฟเริ่มเรียกร้องอยากกินของหวานแล้วล่ะ อยู่เมืองคองมาหลายวันไม่ได้เจอของหวานอร่อยๆ เลย ก็เลยแวะร้าน Pronto Organic Coffee จริงๆ ผ่านตั้งแต่ตอนไปแล้วร้าน เห็นไม่ค่อยมีคนเลยไม่ได้แวะตั้งแต่ขาไป ขากลับก็เลยแวะซะหน่อย บอกเลยว่าถ้าไม่แวะนี่เสียใจมาก

กาแฟที่นี่ดีมาก เค้กก็อร่อยด้วยนะ กาแฟทุเรียนนี่คือละมุนมาก ใครได้มีโอกาสมาเชียงดาวแวะร้านนี้ค่ะ เค้าเป็นโรงคั่วกาแฟเองด้วย วิวหลักล้านมากจากที่ร้านมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวสวยๆ เลย ทำเลทองมากร้านนี้ พวกเรานั่งชิลอยู่นานเลย จากนั้นพวกเราก็เดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองเชียงใหม่

ภารกิจในเมืองเชียงใหม่ก็คือซื้อของฝากที่กาดธานินท์เล็งมาตั้งแต่เลคอทีแล้ว แหนมอร่อย แคปหมูดี ต้องมีไปฝากคุณนายทองสุข จากนั้นก็ไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านเดิมเลย “ฮ้านถึงเชียงใหม่” ติดใจในรสชาติสั่งกันอิ่มเลยล่ะ แล้วหญิงนุชก็บอกว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่นะ

ของหวานก็มาพวกเราเลยไปจบทริปกันที่ “พายจริณ” ร้านนี้บอกเลยว่ามาเชียงใหม่ต้องไม่พลาดพายเค้าอร่อยจริงอะไรจริง เพื่อนแก้วบอกว่ามีคนรับไปขายที่กรุงเทพฯ ด้วยนะ พูดขนาดนี้ต้องได้กินแล้วล่ะ ตอนแรกก็กะว่าไม่หมดหรอกพวกเราน่ะ แต่ที่ไหนได้ราบเรียบเพราะอร่อยจริงๆ

ทุกอย่างราบเรียบได้ตรงเวลามากหกโมงเย็นไปส่งหญิงนุชที่โรงแรมเชียงใหม่เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับตอนเช้า ส่วนพวกเราทีมรถก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ โดยปลายทางค่ำคืนนี้แวะพักกันที่ลำปางก่อนหนึ่งคืนก่อนที่จะขับกลับเรื่อยๆ ไปยังกรุงเทพมหานครไว้มาเล่าต่อตอนหน้านะค๊า

Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *