ปรับตัวเพื่อความสันติ
EP2 :: ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หลังจากเริ่มใช้ชีวิตกับพ่อแม่หนึ่งเดือนผ่านไป สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป ไม่ไหวแล้วเว้ยย .. เราต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นจะอึดอัดมาก มีคนบอกว่าปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยตัวเรา เอาวะ ตั้งสติแล้วค่อยๆ แก้ปัญหาทีละจุด
เริ่มจากความอิสระบอกเลยว่าตั้งแต่มาอยู่บ้านไม่มีความอิสระเอาเสียเลย เหมือนมีกล้อง CCTV ติดอยู่รอบบ้าน จะทำอะไรพ่อกับแม่ก็คอยจับตามองตลอดเวลา กลับบ้านดึกก็บ่น ไปไหนก็โทรตามทุกระยะ ประหนึ่งว่าอายุ 14 งั้นแหละ มีแฟนพ่อกับแม่ก็ตามติดแฟนจนรู้สึกได้ว่าเค้าอึดอัดแหละ จนสุดท้ายแฟนก็เลิกรากันไปโดยไม่ทราบสาเหตุ เดาว่าคงอึดอัดแหละ แต่พอเลิกกับแฟน คนที่ดีที่สุดสำหรับเรากับเป็นแม่และพ่อ ที่ก็รู้แหละว่าเลิกกันแต่ก็คอยให้กำลังใจปลอบลูกได้เหมือนเพื่อนเลยแฮะ
เพราะตั้งแต่มาทำงานต่างจังหวัดเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ที่ราชบุรีเองเราก็เคยอยู่ตอนอนุบาล โตขึ้นก็ย้ายตามพ่อไปที่อื่นดังนั้นเพื่อนในวัยเด็กเราน้อยมาก มีแต่เพื่อนตอนเรียน ปวช ปวส ปริญญาตี และปริญญาโท นั่นแหละ แต่ตอนนี้เพื่อนใกล้ชิดที่สุดกลับเป็นพ่อและแม่ไปซะงั้น จากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เลยเป็นจุดเปลี่ยนจุดหนึ่ง ไม่ว่าเราจะเป็นยังไงคนสุดท้ายที่อยู่กับเราไม่ทิ้งไปหนก็คือแม่กับพ่อ
ดังนั้นวิธีการแก้ไขเบื้องต้นคือการจูนกัน ไหนๆ พ่อกับแม่ก็เป็นห่วงมากมายก็ไปมันด้วยกันซะเลย เพราะพ่อแม่เกษียรแล้วทั้งคู่ไม่ทำงานกันแล้ว เราจึงพาสองคนนี้ไปทำงานด้วย จนเพื่อนๆ ที่ออฟฟิตแซวว่า จ้างคนเดียวเหมือนจ้างสามคน พ่อขับรถ เราดูทาง แม่ดูร้านค้าข้างทาง เพราะต้องไปเปิดลูกค้าใหม่ ด้วยความที่เหมือนทีมทำงานด้วยกัน ก็เลยเริ่มมีความสนุกเวลาไปไหนมาไหน ดูสองคนนี่เค้าก็เพลิดเพลินกับการเดินทางไปด้วยกัน ก็ไม่ค่อยทะเลาะกัน เพราะให้กฏเหล็กที่ว่าถ้าทะเลาะกันเมื่อไหร่จะไม่พามาด้วย
ตลอดระยะเวลาห้าปีกว่า พวกเราตะลอนเที่ยวด้วยกันไปทุกที่ ใช้ชีวิตกินนอนด้วยกันตลอด ทำให้รู้ว่าพ่อกับแม่ชอบอะไรไม่ชอบอะไร เวลาไปทำงานก็เอาไปด้วย เราก็ไปหาลูกค้าก็เอาแม่กับพ่อเข้าไปเช็คอินโรงแรมก่อน เราก็เลือกโรงแรมที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว พอพักหายเหนื่อยเค้าจะได้เดินไปเที่ยวเองได้ พอตกเย็นก็มารับไปกินข้าวร้านอร่อยๆ ของแต่ละจังหวัด เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานมาก
ช่วงห้าปีนี่นับเป็นช่วงที่ได้มีโอกาสพาพ่อกับแม่เที่ยวแบบสนุกที่สุดแล้ว พ่อก็ชอบสรรหาร้านอร่อยมานำเสนอ พอเสาร์อาทิตย์ก็พากันไปกินข้าวนอกบ้าน พวกเราใช้ชีวิตแบบนี้กันจนมีเหตุการณ์ที่มาเปลี่ยนชีวิตพวกเราไปอย่างสิ้นเชิง มีคนบอกว่า “เราควรใช้ชีวิตทุกวันให้เป็นวันพิเศษ” คำพูดของเค้ากล่าวไว้ได้ถูกต้องเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่ย้อนกลับมาไม่ได้คือ “เวลา” ถ้ามันผ่านไปแล้วมันไม่เคยย้อนกลับมาให้เราแก้ไขสิ่งใดเลย
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันท์ใด ความสุขก็เช่นกัน มันมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน ดังนั้นจงใช้เวลาทุกวันให้มีค่าและพิเศษเสมอ เพราะคุณไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าเวลาจะมาเปลี่ยนอะไรคุณ ติดตามกันต่อในตอนหน้าว่า จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของพวกเราเป็นอย่างไร?
Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com