Chiang Dao Ep.3

เพราะคิดถึงจึงมาเชียงดาว

จากตอนที่แล้วพวกเราเดอะแก๊งค์ไป ตะลุยกินเชียงใหม่ กันมาแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาวกันแล้ว สำหรับผู้เขียนมาเที่ยวเชียงดาวหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่เชียงดาวยังไม่ดังมากจนตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักเชียงดาว เมืองเล็กๆ ที่สามารถมาใช้ชีวิตสโลไลฟ์ได้จริง

เชียงดาวเริ่มเป็นที่รู้จักก็สมัยยุคสายเดินป่าเค้าฮิตๆ กัน สมัยนั้นโลเคชั่นหินๆ ในการนอนเต็นท์ดูดาว ก็ต้องดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งผู้เขียนก็ยังไม่เคยได้ขึ้นไปนะ เท่าที่ฟังจากคนที่ไปมาสวยนะแต่ก็ไม่ง่ายในการเดินทางไกล ยิ่งตอนนี้ให้ไปคงไม่ไหวเพราะสังขารเริ่มไม่ได้กับการเดินป่าแล้วล่ะ

ตอนนี้มาได้ก็แค่ตีนดอยอ่ะนะ เพราะให้ขึ้นไปลุยๆ เหมือนแต่ก่อนคงไม่ไหวจริงๆ แต่พอไปยากมันก็ทำให้เสน่ห์ของเชียงดาวไม่เคยเปลี่ยนไป ยังคงรอคอยนักเดินทางแนวท้าทายให้ขึ้นไปพิชิตดอยหลวงเชียงดาว ส่วนผู้เขียนก็มองประจำนะเวลามา ดอยหลวงนี่สูงจังเรานั่งมองตรงนี้ก็ได้

และก่อนที่จะขึ้นเชียงดาวนั้น ทุกคนก็ต้องมาแวะซื้อของกันในตลาดเชียงดาว ที่นี่เป็นตลาดเล็กๆ มีของกินอร่อยที่ต้องมาแวะกันสมัยก่อนก็ขาหมูเชียงดาว และอีกหลายร้านจำไม่ได้แล้วล่ะ อ่านข้อมูลเก่าได้ที่ http://www.atourthai.com เป็นบล็อกเก่าของผู้เขียนเอง ร้านสหภัณฑ์นี่ก็มาแวะซื้อเครื่องดื่มกันทุกรอบ จนเดี๋ยวนี้ร้านเค้าใหญ่โตมีของเยอะมากไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เดี๋ยวนี้มีโซจูกับพวกเบียร์แปลกๆ แล้วนะ ไม่ธรรมดา

พอซื้อของกันเสร็จเรียบร้อยไม่ต้องสืบเลยว่า มากันห้าคนรถจะแน่นขนาดไหนเต็มรถกันเลยทีเดียว แก๊งค์เราต้องเกินเท่านั้นอย่าให้ขาด

Le Cor Te (เลคอที) เชียงดาว

พิกัดที่พัก :: https://goo.gl/maps/dY8oX7CV1GtiVYek9

จากตลาดก็ขับรถมาตามทางเพื่อไปยังเชียงดาว อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ เปิดกระจกแล้วต้องร้องเลยว่า “เชียงดาวฉันมาแล้วน้าาาา คิดถึงเธอจัง” เวลาได้กลับมายังสถานที่ที่เราชอบเราจะรู้สึกเหมือนเรากลับมาเยี่ยมเค้าในทุกๆ ปี ชอบอากาศที่นี่จัง เชียงดาวเหมือนเมืองที่อยู่ในหุบเขาห่างไกลผู้คนประมาณนั้นเลย

ที่พักคืนนี้ของพวกเรามีชื่อว่า “เลคอที” กำลังดังในหมู่สายแคมป์ปิ้งเลย เค้าเป็นรีสอร์ทสำหรับสายแคมปปิ้งแต่แบบสบายนะไม่ลำบาก เพราะลำบากแก๊งค์เราคงไม่มาแน่นอน ซึ่งอะไรที่ฮิตคิวจองก็จะยาวยกความดีนี้ให้หญิงนุชเลย เรื่องจัดหาต้องเธอคนนี้เลย ไม่เคยทำให้เพื่อนๆ อย่างพวกเราผิดหวัง ดังนั้นใครจะมาเที่ยวตอนหน้าหนาวจองไว้ตั้งแต่ฤดูฝนเลยจ้า

ที่นี่จะมีบ้านอยู่สองแบบ แบบเป็นหลังจุคนได้เยอะ บ้านเค้าจะเป็นเหมือนบ้านปกติเลย มีอยู่ประมาณ 3 หลัง ไม่ต้องเดินไกล จากที่จอดรถก็เดินนิดเดียว ใกล้ห้องน้ำโซนที่ 1 ก็จะสะดวกเวลาขนของ

ส่วนแบบที่สองก็จะเป็นบ้านแบบแคมป์ปิ้ง เป็นบ้านไม่มีฝาเป็นแบบโล่งๆ ใช้กางเต็นท์เอา บ้านแบบนี้จะมีทั้งบ้านสองชั้น สามารถอยู่กันได้ 4-8 คน และบ้านชั้นเดียวอยู่กันได้ 2-4 คน เค้าก็จะมีหลายหลังจะอยู่ติดกับห้องน้ำโซน 2

แต่ละหลังคุณจะได้วิวดอยหลวงเชียงดาวทุกหลัง แต่จะเดินไกลหน่อยไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหรือลานจอดรถ ซึ่งเวลามาถึงก็ต้องขนไปให้หมดทีเดียว เค้ามีรถเข็นสำหรับให้เข็นของไว้คอยบริการ แต่ใครอยู่บ้านหลังสุดท้ายแล้วลืมของนี่มีร้องเลยล่ะ เดินไกลมากจนไม่อยากไปเอาเลยจริงๆ

ห้องน้ำที่นี่เค้าจะไม่ใช้รวมกันโดยบ้านหลังไหนก็จะมีบอกห้องน้ำไว้ เค้าจะให้กุญแจสำหรับห้องน้ำไว้บ้านละ 1 ชุด ใครมาใช้ก็ล็อกห้องน้ำของบ้านตัวเองไว้ ที่นี่เค้ามีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยดังนั้นไม่ต้องกลัวหนาว ยกเว้นเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ทำงานอันนี้ตัวใครตัวมันจ้า

ที่นี่เค้าใช้ระบบฝายทดน้ำทำให้น้ำไหลเวียนตลอด เป็นการจัดการน้ำที่ดีมากเลยนะ มีใช้โซลาเซลเข้ามาเป็นไฟฟ้า ผู้เขียนชอบความประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับธรรมชาติของที่นี่นะ

มาถึงบ้านของพวกเราหญิงนุชก็เลือกให้ดีมาก ไม่ไกลจากห้องน้ำเท่าไหร่ เดินไปเดินมาสบายมาก เพราะบ้านทุกหลังต้องมาใช้ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องน้ำเค้ามีหลายห้องสะอาดด้วยนะ บ้านของเรามีสองชั้นดูทรงแล้วถ้าฝนตกคงต้องมานอนกองชั้นบนกัน เพราะเค้าทำเป็นผ้าใบกั้นกันฝน

พอขนของมาเรียบร้อยก็เตรียมจัดของที่พวกเราขนและซื้อมากันอย่างเยอะมาก เหมือนจะมาอยู่หลายวันแต่ไม่ ของวันนี้ก็คือแค่วันนี้ ของพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ สำหรับใครที่ไม่อยากขนอะไรเยอะที่นี่เค้าก็มีอาหารตามสั่งสามารถสั่งมาทานกันได้ราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้อยู่นะ แต่ความที่พวกเราขนของมา (เยอะ) มาก ก็ต้องจัดการกับสิ่งที่ขนมาก่อน

มาถึงก็จุดเตาไฟอุ่นของที่ซื้อมา มื้อเย็นวันนี้เป็นไปอย่างชิลๆ ทานข้าวกันไปคุยกันไปการมาเที่ยวด้วยกันเหมือนการมาอัพเดทชีวิตของแต่ละคน พวกเราคบกันมายาวนานมากแก๊งค์นี้เป็นแก๊งค์เพื่อนรักเลยทีเดียว เพื่อนไม่ต้องมีมากมายแต่ให้มีคุณภาพนับว่าเป็นสุดยอดของชีวิตแล้ว ชีวิตโสดของผู้เขียนก็ไม่เคยจะเหงาเลยนะเพราะไปไหนก็ไปกะเค้าเนี่ยแหละ

ตกดึงก็ได้เวลานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ไฟสวยๆ ที่เห็นนั้นหญิงนุชและเพื่อนจุ้ยหอบหิ้วมาเพื่อการนี้ นั่งดื่มกันไปฟังเสียงลม เสียงสิ่งต่างๆ รอบตัวในความเงียบนั้น มันทำให้เหมือนร่างกายได้มาพัก ปกติเราใช้ชีวิตแต่กับหน้าจอไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แต่พอได้มาเจอกันได้คุยกันมันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ ในแต่ละปีพวกเราจะมีทริปไปเที่ยวด้วยกันเสมอๆ ขึ้นเหนือบ้าง ลงใต้บ้าง แล้วแต่หญิงนุชจะนำเสนอ ผู้เขียนก็ไปกะเค้าหมดแหละเพื่อนไปไหนก็ไปกะเค้าด้วย

เช้าวันใหม่ ..

เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ตีสองกันเลยทีเดียวใช้เวลากันคุ้มค่ามากเลยจริงๆ เช้าวันใหม่ตื่นมาพร้อมกับสายฝนโปรยปราย วิวหลังบ้านนี้หลักล้านมาก จิบกาแฟดูหมอกลอยบนดอยเสมอดาว ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีจัง

ช่วงเช้าของที่นี่เค้าจะมีบริการอาหารเช้าให้ด้วย โดยเค้าจะนำปิ่นโตมาวางที่หน้าบ้านทุกหลัง สบายจริงๆ ตื่นมาก็ได้ทานข้าวเลย เค้าจะมีให้พอดีกับจำนวนคนเลย ทานเสร็จก็เก็บของเพื่อเดินทางกันต่อ กว่าจะไปถ่ายรูปกว่าจะเก็บของปาไปเกือบเที่ยง สโลว์ไลฟ์มากพวกเราทั้งห้าคน

มาที่นี่ได้เสพการใช้ชีวิตกับธรรมชาติเหมือนมาปล่อยใจให้สงบนิ่ง นั่งมองฟ้า นั่งมองท้องนา นั่งมองดอยเสมอดาว แค่นี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ ความสุขเป็นสิ่งที่มาจากตัวเรา แค่เรานำพาชีวิตของเราออกไปหาความสุข ออกไปใช้ชีวิตออกไปพักผ่อน ออกไปใช้เงิน อย่าให้เงินใช้เราอย่างเดียว

มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องใช้ชีวิตให้คนรวยอิจฉา เพราะคนรวยมากๆ เค้าจะไม่ค่อยมีเวลา ไม่ค่อยได้ไปไหนหาแต่เงิน ตัดภาพกับมาที่เรามนุษย์เงินเดือนธรรมดาแต่มีเวลาไปเที่ยว เนี่ยแหละความสุขของมนุษย์เงินเดือน

Editor :: Patthanid Chenagtawee
IG :: patthanid
Facebook :: โสดเที่ยวสนุก By Patthanid
Website :: www.ablogtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *