จุดเปลี่ยนของชีวิต

EP3 :: ความหมายของชีวิต คุณคิดว่าชีวิตเรามีความหมายไหม? ใครที่บอกว่าชีวิตไม่มีความหมายบอกเลยว่า “คุณคิดผิด” เพราะคุณรู้ไหมว่าสิ่งที่เงินก็ซื้อไม่ได้นั่นคือชีวิต ชีวิตที่มันสูญเสียไปแล้วมักจะไม่มีวันกลับคืน ดังนั้นเราควรรักษาชีวิตเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากตอนที่แล้วเล่าถึงการปรับตัวเพื่อความสงบสุขในบ้านเรา หลังจากที่พวกเราปรับตัวเข้ากันได้ดีมาก บ้านที่เคยไม่สนุกกับเปลี่ยนเป็นบ้านที่มีความสุข แต่อย่างที่บอกแหละว่าความสุขของคนเรามักอยู่ได้ไม่นาน เวลามีความสุขมากๆ มักจะมีจุดเปลี่ยนของชีวิต เพื่อมาทดสอบเราว่า ถ้าเราอยู่ในช่วงเวลาที่เลาร้ายชีวิตเราจะยังคงมีความสุขอีกไหม? วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ 2557 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่เรากำลังจะออกจากบ้านเพื่อไปออกกำลังกาย จำได้ว่ากำลังผูกเชือกรองเท้าอยู่เลย อยู่ก็มีคนมาเรียกว่า “ให้รีบไปดูพ่อเร็วพ่อโดนรถชน” อยู่ที่หน้าวัด เราก็นึกในใจว่าคงไม่เป็นอะไรมากหรอก เพราะพ่อขับรถล้มประจำแหละเพราะแกเป็นคนขับรถเร็วมาก แกก็รอดมาได้ทุกรอบ ครั้งนี้คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง วินาทีนั้นยังคงใจเย็นอยู่ แต่พอคนเริ่มมาเวียนมาบอกหลายคน สัญชาติญานมันทำให้รู้สึกทันทีว่า ...

ปรับตัวเพื่อความสันติ

EP2 :: ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากเริ่มใช้ชีวิตกับพ่อแม่หนึ่งเดือนผ่านไป สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป ไม่ไหวแล้วเว้ยย .. เราต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นจะอึดอัดมาก มีคนบอกว่าปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยตัวเรา เอาวะ ตั้งสติแล้วค่อยๆ แก้ปัญหาทีละจุด เริ่มจากความอิสระบอกเลยว่าตั้งแต่มาอยู่บ้านไม่มีความอิสระเอาเสียเลย เหมือนมีกล้อง CCTV ติดอยู่รอบบ้าน จะทำอะไรพ่อกับแม่ก็คอยจับตามองตลอดเวลา กลับบ้านดึกก็บ่น ไปไหนก็โทรตามทุกระยะ ประหนึ่งว่าอายุ 14 งั้นแหละ มีแฟนพ่อกับแม่ก็ตามติดแฟนจนรู้สึกได้ว่าเค้าอึดอัดแหละ จนสุดท้ายแฟนก็เลิกรากันไปโดยไม่ทราบสาเหตุ เดาว่าคงอึดอัดแหละ แต่พอเลิกกับแฟน คนที่ดีที่สุดสำหรับเรากับเป็นแม่และพ่อ ที่ก็รู้แหละว่าเลิกกันแต่ก็คอยให้กำลังใจปลอบลูกได้เหมือนเพื่อนเลยแฮะ เพราะตั้งแต่มาทำงานต่างจังหวัดเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ที่ราชบุรีเองเราก็เคยอยู่ตอนอนุบาล โตขึ้นก็ย้ายตามพ่อไปที่อื่นดังนั้นเพื่อนในวัยเด็กเราน้อยมาก มีแต่เพื่อนตอนเรียน ปวช ปวส ...

มานุด – บ้านนอก

EP 1 :: จุดเริ่มต้นของการมาเป็นมนุษย์บ้านนอก เรื่องมันก็มีอยู่ว่าเริ่มทำงานในความรับผิบชอบที่ทำอยู่ไม่ไหว หลายๆ อย่างมาพร้อมความกดดันขั้นสุดขีด เพราะงานที่ทำก็ไม่ใช่ทางถนัดของเราเลย ความรับผิดชอบก็เพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกว่า เราต้องหาทางออกสำหรับตัวเองแล้วล่ะ นั่นคือ “การสมัครงาน” ใหม่ อยู่ๆ ฟ้าก็ประทานตำแหน่งงานที่มีความท้าทาย เป็นเทรนของสิบปีที่แล้วเลย นั่นคือการเป็นเซลขายสมาร์โฟน จำได้ว่าตอนนั้น BlackBerry มันดังมาก เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ยืนหนึ่งเดียวในสมัยนั้น เด็กยุคนั้นต้องรู้จัก “พิน” แน่นอน จำได้กันไหม ขอพินหน่อย!! ประกอบกับออปชั่นที่บริษัทเสนอมาก็ถือว่าโอเคมาก เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นเปลี่ยนของออฟฟิตเลยนั่นคือทำงานที่บ้าน เข้าออฟฟิตเดือนละ 1 ครั้ง มีโน็ตบุ๊คให้มาทำงาน 1 เครื่อง ...